GPSC แจ้งผลประกอบการ 9 เดือนโต 45% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณการขายไฟฟ้า-ไอน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น จากทั้งลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ บวกกับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าใหม่ที่ทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นหุ้นพื้นฐานที่มีผลประกอบการ และการเติบโตอย่างมั่นคง แม้ไตรมาส 3 เป็นช่วงหยุดซ่อมบำรุงตามแผน แต่ได้รับเงินปันผลจาก RPCL ชดเชย
ดร.เติมชัย บุนนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้ 5,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% มีกำไรสุทธิ 724 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้รวม 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ของปี 2559 อยู่ที่ 16,214 ล้านบาท ลดลง 8% และมีกำไรสุทธิ 2,281 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการลดลงของรายได้เป็นผลจากปริมาณการส่งไฟฟ้าเข้าระบบตามความต้องการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แต่บริษัทฯ ยังมีความพร้อมจ่ายตลอดเมื่อ กฟผ. เรียกรับไฟฟ้า จึงไม่กระทบกับผลประกอบการของบริษัทฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ไตรมาส 3 บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายไอน้ำที่เพิ่มขึ้นให้กับกลุ่มลูกค้าในเครือปตท. และอุตสาหกรรมอื่นๆ ประกอบกับได้รับเงินปันผลจาก บริษัท ราชบุรี เพาเวอร์ จำกัด (RPCL) ซึ่ง GPSC เข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 15%
“แม้ว่าไตรมาส 3 จะเป็นช่วงที่บริษัทฯ มีแผนการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า แต่ไม่ได้มีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ เนื่องจากได้รับเงินปันผลระหว่างกาลของโรงไฟฟ้า RPCL เข้ามาชดเชยส่วนกำไร ทำให้ผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ และผลประกอบการ 9 เดือนยังคงมีกำไรขยายตัวอย่างต่อเนื่อง” ดร.เติมชัยกล่าว
สำหรับไตรมาส 4 ปี 2559 จะมีความคืบหน้าในการดำเนินงานของบริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จำกัด (Combined Heat and Power Producing Co.,Ltd. : CHPP) โดย GPSC ถือหุ้น 100% ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ขายไฟฟ้าภายใต้โครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดินสำหรับสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งจันทบุรี จำกัด กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในปลายเดือนธันวาคม 2559 ตามเวลาที่ภาครัฐกำหนด